“พลังงานไฟฟ้า” เป็นพลังงานที่สำคัญที่สุด ณ เวลานี้เลยหล่ะครับ เพราะไฟฟ้าแทบจะเป็นแหล่งพลังของทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ไปแล้ว ไม่มีสิ่งใดไม่ถูกขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าหรือแทบจะน้อยเอามากๆ แล้ว แต่ยังมีอีกหนึ่งประเทศพลังงานที่ เราทุกคนน่าจะเคยผ่านตากันมากับเจ้า “พลังงานจลน์” ที่เป็นพลังงานที่น่าสนใจและเราใช้ประโยชน์กันอยู่โดยที่ไม่รู้ตัวครับ เพื่อเป็นกการไม่เสียเวลา เราไปดูกันดีกว่าครับ
ก่อนอื่นเรามารู้จักกับ “พลังงานจลน์” กันก่อนดีกว่า
พลังงานจลน์ คือพลังงานที่เกิดกับวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ เช่น รถยนต์กำลังแล่น เครื่องบินกำลังบิน พัดลมกำลังหมุน น้ำกำลังไหลหรือน้ำตกจากหน้าผา ธนูที่พุ่งออกจากคันศร จักรยานที่กำลังเคลื่อนที่ เป็นต้น จึงกล่าวได้ว่า พลังงานจลน์ล้วนเป็นพลังงานกลที่สามารถเปลี่ยนรูปกลับไปกลับมาได้
วัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ล้วนมีพลังงานจลน์ทั้งสิ้น ปริมาณพลังงานจลน์ในวัตถุจะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับมวลและความเร็วของวัตถุนั้น ถ้าวัตถุมีการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงจะมีพลังงานจลน์มาก แต่ถ้าเคลื่อนที่เท่ากันวัตถุที่มีมวลมากกว่าจะมีพลังงานจลน์มากกว่า
ประโยชน์ต่างๆ ของพลังงานจลน์ที่เราอาจไม่รู้
พลังงานจลน์ หรือพลังงานจากการเคลื่อนที่ เป็นรูปแบบหนึ่งของพลังงานที่มีประโยชน์หลายประการ ดังนี้
●การผลิตกระแสไฟฟ้า พลังงานจลน์สามารถถูกแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าโดยผ่านหลักการของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เช่น การใช้พลังงานจลน์จากการเคลื่อนที่ของน้ำในเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ หรือการใช้พลังงานจากลมในกังหันลม เป็นต้น
●การขนส่งและการเดินทาง พลังงานจลน์เป็นพื้นฐานในการขับเคลื่อนยานพาหนะต่างๆ อาทิ รถยนต์ รถไฟ เครื่องบิน เรือ ทำให้สามารถเคลื่อนที่จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้
●กระบวนการผลิตในอุตสาหกรรม หลายกระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมต้องอาศัยพลังงานจลน์ เช่น สายการผลิต เครื่องจักรกลต่างๆ ระบบขนถ่ายวัตถุดิบ เป็นต้น
●การขับเคลื่อนเครื่องจักร พลังงานจลน์ถูกนำมาใช้ในการขับเคลื่อนเครื่องจักรกลหลากหลายรูปแบบ ทั้งในระดับอุตสาหกรรมและระดับครัวเรือน เช่น เครื่องปั่นไฟ เครื่องซักผ้า พัดลม เป็นต้น
●การผลิตความร้อน พลังงานจลน์สามารถถูกเปลี่ยนเป็นความร้อนผ่านหลักการเสียดทาน เช่น การใช้ระบบเบรกที่แปลงพลังงานจลน์เป็นความร้อน
●การศึกษาและการวิจัย หลักการของพลังงานจลน์มีความสำคัญในศาสตร์ด้านฟิสิกส์ กลศาสตร์ และวิศวกรรมต่างๆ จึงมีการนำมาศึกษาวิจัยเพื่อนวัตกรรมใหม่ๆ
ซึ่งพลังงานจลน์มีบทบาทสำคัญในการผลิตพลังงานไฟฟ้า การขนส่ง การผลิตในอุตสาหกรรม รวมถึงการศึกษาและการพัฒนาต่างๆ จึงนับได้ว่าเป็นแหล่งพลังงานที่มีประโยชน์อย่างมากในการดำรงชีวิตของมนุษย์
ถ้าโลกนี้ไม่มีพลังงานจลน์จะเกิดอะไรบ้าง?
หากโลกนี้ไม่มีพลังงานจลน์ จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการดำรงชีวิตและระบบต่างๆ ของมนุษยชาติ ดังนี้
●ระบบขนส่งล้มเหลว โลกจะหยุดนิ่งไม่มีการเคลื่อนที่ของยานพาหนะทุกประเภท ทั้งรถยนต์ รถไฟ เรือ และเครื่องบิน เนื่องจากพลังงานจลน์เป็นพื้นฐานสำคัญในการขับเคลื่อนการคมนาคม ส่งผลให้การขนส่งสินค้าและการเดินทางหยุดชะงัก
●ผลกระทบต่อการผลิตพลังงานไฟฟ้า โรงไฟฟ้าพลังน้ำ พลังงานลม และโรงไฟฟ้าอื่นๆ ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานจลน์จะไม่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ ส่งผลให้ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานล้มเหลว
●กระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมหยุดชะงัก เครื่องจักรและสายการผลิตในโรงงานส่วนใหญ่ต้องอาศัยพลังงานจลน์ หากไม่มีจะทำให้กระบวนการผลิตหยุดชะงัก ไม่สามารถผลิตสินค้าได้
●อุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ไม่สามารถทำงานได้ เครื่องจักรกลและอุปกรณ์หลายอย่างที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น เครื่องซักผ้า พัดลม เครื่องปั่นผสม จะใช้งานไม่ได้ เนื่องจากพึ่งพาพลังงานจลน์
●การศึกษาและการวิจัยได้รับผลกระทบ การศึกษาและวิจัยทางด้านฟิสิกส์ วิศวกรรมศาสตร์ และกลศาสตร์เกี่ยวกับพลังงานจลน์จะไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้
●ระบบนิเวศน์ได้รับผลกระทบ หลายสิ่งมีชีวิตต้องอาศัยการเคลื่อนที่เพื่อการสืบพันธุ์และการดำรงชีพ หากไม่มีพลังงานจลน์ จะส่งผลต่อวัฏจักรชีวิตของพืชและสัตว์หลายชนิด
ดังนั้น พลังงานจลน์มีบทบาทสำคัญมากต่อการดำรงชีวิตและความเจริญก้าวหน้าของมนุษยชาติ หากขาดพลังงานชนิดนี้จะเกิดความวิกฤติอย่างรุนแรงเหนือจินตนาการเลยครับ เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “พลังงานจลน์มีประโยชน์อย่างไรกันนะ” ที่เราได้รวบรวมมาฝากท่านผู้อ่านกันในบทความต้น คิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากๆ เลยหล่ะครับ